พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้หลุมสิวแย่ลงโดยไม่รู้ตัว

รู้หรือไม่? บางพฤติกรรมทำให้หลุมสิวลึกกว่าเดิม

แม้ว่าคุณจะกำลังพยายามฟื้นฟูหลุมสิวอย่างเต็มที่ แต่บางครั้งหลุมสิวกลับแย่ลง หรือฟื้นฟูได้ช้ามาก อาจเป็นเพราะคุณเผลอทำพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลเสียต่อกระบวนการซ่อมแซมผิวโดยไม่รู้ตัว

มาดูกันว่าพฤติกรรมใดบ้างที่เป็นตัวการสำคัญ และคุณควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้การฟื้นฟูหลุมสิวเห็นผลเร็วขึ้น

5 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้หลุมสิวแย่ลง

1. บีบสิว หรือแกะหลุมสิวซ้ำ ๆ

พฤติกรรมยอดฮิตที่หลายคนติดเป็นนิสัย การบีบหรือแกะสิวด้วยมือ อาจทำให้แผลอักเสบลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ และก่อให้เกิดพังผืดใต้ผิว ซึ่งทำให้หลุมสิวรักษาได้ยากขึ้น

2. ขัดผิวแรง ๆ หรือใช้สครับที่หยาบเกินไป

แม้การผลัดเซลล์ผิวจะดีต่อการฟื้นฟูหลุมสิว แต่การขัดผิวแรงเกินไป หรือใช้เม็ดสครับที่หยาบ อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดการอักเสบซ้ำ ส่งผลให้หลุมสิวลึกขึ้นได้

3. ไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

แสงแดดทำลายคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้กระบวนการสร้างผิวใหม่ชะลอตัวลง และยังทำให้รอยแผลเป็นคล้ำขึ้น หลุมสิวจึงเห็นชัดกว่าเดิม

4. ใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว

• ใช้ครีมที่มีสารระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งเกินไป อาจทำให้ผิวลอก และหลุมสิวดูเด่นชัดขึ้น

5. นอนดึก และขาดสารอาหารที่จำเป็น

การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ส่งผลให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวได้ช้าลง คอลลาเจนผลิตได้ไม่เต็มที่ หลุมสิวจึงฟื้นตัวได้ช้ากว่าปกติ

วิธีปรับพฤติกรรมเพื่อช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น

• หยุดบีบสิวและแกะสิวทันที
• ผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA หรือ BHA อย่างอ่อนโยน
• ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน
• เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เช่น Retinol, Vitamin C
• พักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ โปรตีนสูง

สรุป

พฤติกรรมเสี่ยงบางอย่าง เช่น บีบสิว ขัดผิวแรง หรือไม่ทาครีมกันแดด อาจทำให้หลุมสิวลึกและฟื้นตัวช้ากว่าที่ควร การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ จะช่วยเสริมการฟื้นฟูผิวให้เร็วขึ้น และลดโอกาสที่หลุมสิวจะกลายเป็นปัญหาถาวร