กู้ผิวจากหลุมสิวด้วยกรดผลไม้ (AHA/BHA) – ต้องใช้อย่างไรให้ปลอดภัย?

กรดผลไม้ AHA/BHA ช่วยเรื่องหลุมสิวได้จริงไหม?

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า AHA/BHA ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำ และทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ แต่การใช้กรดผลไม้เหล่านี้ผิดวิธี อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแย่ลงได้ ดังนั้น การรู้จักวิธีใช้ที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ

มาดูกันว่ากรดผลไม้ AHA และ BHA ต่างกันอย่างไร และควรใช้อย่างไรให้ปลอดภัยเพื่อฟื้นฟูหลุมสิว

AHA และ BHA คืออะไร?

AHA (Alpha Hydroxy Acid)

กรดที่สกัดจากผลไม้ เช่น Glycolic Acid, Lactic Acid
คุณสมบัติ: ผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ช่วยให้รอยดำจากสิวและหลุมสิวตื้น ๆ ดูเรียบเนียนขึ้น

เหมาะสำหรับ:

• คนที่มีหลุมสิวตื้น
• รอยดำจากสิว
• ผิวแห้งหรือผิวธรรมดา

BHA (Beta Hydroxy Acid)

กรดที่ละลายในน้ำมัน เช่น Salicylic Acid
คุณสมบัติ: ทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน ลดการอุดตัน ลดการเกิดสิวใหม่ และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

เหมาะสำหรับ:

• คนที่มีสิวอุดตัน
• ผิวมัน
• หลุมสิวตื้นและรูขุมขนกว้าง

AHA/BHA ช่วยฟื้นฟูหลุมสิวได้อย่างไร?

• กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า ให้เซลล์ใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้รอยหลุมดูจางลง
• ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ร่องหลุมตื้น ๆ ดูลดลง
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เมื่อใช้ต่อเนื่องในระยะยาว

ใช้ AHA/BHA อย่างไรให้ปลอดภัย?

1. เริ่มจากความเข้มข้นต่ำ

• AHA: เริ่มที่ 5-8%
• BHA: เริ่มที่ 1-2%

2. ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก่อน

ให้ผิวปรับตัว แล้วค่อยเพิ่มความถี่เมื่อผิวแข็งแรง

3. ทาครีมกันแดดทุกวัน

กรดผลไม้ทำให้ผิวไวต่อแสง หากไม่ป้องกัน อาจเกิดรอยดำและทำให้ผิวบาง

4. หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับ Retinol หรือ Vitamin C

อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากเกินไป หากต้องการใช้ ควรแยกเวลากัน เช่น

• AHA/BHA → ใช้ตอนกลางคืน
• Vitamin C → ใช้ตอนเช้า

ข้อควรระวัง

• หากมีผิวแพ้ง่าย หรือเคยมีประวัติแพ้กรดผลไม้ ควรทดสอบบริเวณท้องแขนก่อน
• หากรู้สึกแสบมาก หรือเกิดรอยแดง ให้หยุดใช้ทันที
• ไม่ควรขัดผิวแรง ๆ หรือใช้สครับร่วมในวันเดียวกัน

สรุป

AHA/BHA เป็นตัวช่วยที่ดีในการผลัดเซลล์ผิวและทำให้หลุมสิวตื้น ๆ ดูเรียบเนียนขึ้น แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ ใช้อย่างสม่ำเสมอ และอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เต็มประสิทธิภาพ