ประเภทของหลุมสิว – รู้จักให้ลึกก่อนเลือกวิธีรักษา

หลุมสิวมีกี่แบบ? รู้ไว้ก่อน ฟื้นฟูได้ตรงจุด

หลังจากสิวหายแล้ว แต่ผิวยังทิ้งร่องรอยเป็นรอยบุ๋มหรือหลุมสิว ปัญหาเหล่านี้มักต้องใช้เวลาฟื้นฟูและการรักษาที่เหมาะสม สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ การรู้ว่า "หลุมสิว" ของเรานั้นเป็นประเภทไหน เพราะหลุมสิวแต่ละแบบต้องการวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน

3 ประเภทของหลุมสิว ที่พบบ่อยที่สุด

1. หลุมสิวแบบ Ice Pick Scar

ลักษณะ: หลุมแคบ ลึก คล้ายรูเข็ม แทงลงไปในผิวหนัง
สาเหตุ: เกิดจากสิวอักเสบลึก หรือฝีหนองขนาดใหญ่
การรักษา: ยากที่สุด ต้องใช้เทคนิคพิเศษ เช่น TCA CROSS หรือการผ่าตัดหลุมสิว

2. หลุมสิวแบบ Boxcar Scar

ลักษณะ: หลุมขอบชัด เป็นวงสี่เหลี่ยม ขนาดกว้าง
สาเหตุ: เกิดจากการอักเสบที่ทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิว
การรักษา: เลเซอร์ กระตุ้นคอลลาเจน หรือ Subcision เติมเต็มเนื้อผิว

3. หลุมสิวแบบ Rolling Scar

ลักษณะ: หลุมสิวตื้น มีลักษณะเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน
สาเหตุ: เกิดจากการดึงรั้งของพังผืดใต้ผิว
การรักษา: Subcision ตัดพังผืดใต้ผิว ร่วมกับเลเซอร์และการกระตุ้นคอลลาเจน

วิธีสังเกตหลุมสิวของตัวเอง

• ใช้แสงข้าง (Side Lighting) ส่องให้เห็นเงาของรอยหลุม จะช่วยให้มองเห็นความลึกและขอบของหลุมได้ชัดเจนขึ้น
• สัมผัสด้วยนิ้วมือ หากรู้สึกเป็นคลื่นหรือขรุขระ มักเป็น Rolling Scar แต่ถ้าเจอร่องลึกเฉพาะจุด อาจเป็น Ice Pick หรือ Boxcar

ทำไมการรู้ประเภทหลุมสิวจึงสำคัญ?

• ช่วยให้เลือกวิธีรักษาได้อย่างเหมาะสม
• ลดความเสี่ยงในการทำหัตถการผิดวิธี ที่อาจทำให้ผิวแย่ลง
• วางแผนการรักษาได้ตรงจุด เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

สรุป

หลุมสิวมี 3 ประเภทหลัก คือ Ice Pick, Boxcar และ Rolling Scar การรู้จักประเภทหลุมสิวของตนเองจะช่วยให้สามารถเลือกวิธีรักษาได้อย่างตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ในการฟื้นฟูผิวได้อย่างชัดเจนมากขึ้น