ไม่มีสินค้าในตะกร้า
"รอยสิว หลุมสิว ไม่ต้องทน! ค้นพบตัวช่วยเพื่อผิวเรียบเนียนที่แท้จริง"
หมดปัญหาหลุมสิว! ทางออกเพื่อผิวเรียบเนียน พร้อมให้คุณมั่นใจอีกครั้ง
หลุมสิวเก่า ผิวไม่เรียบ? ฟื้นฟูได้! แค่เลือกวิธีที่ใช่ให้ผิวคุณ
หลุมสิวรักษายังไงให้ได้ผล? บทความนี้รีวิววิธีรักษาหลุมสิวแต่ละประเภท เช่น เลเซอร์, TCA CROSS, Subcision, ฟิลเลอร์ และสกินแคร์ พร้อมข้อดี-ข้อเสีย เพื่อช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับผิวของคุณที่สุด!
(เคล็ดลับเลือกวิธีที่เหมาะสมสำหรับคุณ)
หลุมสิว เป็นปัญหาผิวหน้าที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะผู้ที่เคยเป็นสิวอักเสบรุนแรง ซึ่งหลุมสิวเกิดจากคอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลาย ทำให้เกิดรอยบุ๋มลงไป ผิวดูไม่เรียบเนียน แม้สิวหายไปแล้วก็ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ การรักษาหลุมสิวจึงต้องใช้เวลาพอสมควร และต้องเลือกวิธีให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีรักษาหลุมสิวแต่ละประเภท พร้อมรีวิวข้อดี-ข้อเสียของแต่ละวิธีจากประสบการณ์จริง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแนวทางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น เรตินอล (Retinol), วิตามินซี (Vitamin C), กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid), เปปไทด์ (Peptide) สามารถช่วยฟื้นฟูผิวและทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะกับหลุมสิวตื้น (Rolling Scar)
✅ ข้อดี:
❌ ข้อเสีย:
รีวิวจากประสบการณ์:
สำหรับคนที่มีหลุมสิวไม่ลึกมาก การใช้สกินแคร์ที่เน้นกระตุ้นคอลลาเจนอาจช่วยให้ผิวดูดีขึ้นได้ในระยะยาว แต่ต้องมีความสม่ำเสมอ และอย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
เลเซอร์ (Laser Resurfacing) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะเลเซอร์ประเภท Fractional CO2, Erbium YAG, Pico Laser ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผลัดเซลล์ผิว
✅ ข้อดี:
❌ ข้อเสีย:
รีวิวจากประสบการณ์:
การทำ Fractional CO2 Laser ช่วยลดหลุมสิวได้จริง แต่ต้องเตรียมใจเรื่องการพักฟื้น ผิวจะแดงและลอกอยู่ประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นผิวจะดูเนียนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน
TCA CROSS คือการใช้ กรด TCA ความเข้มข้นสูง 50-100% แต้มลงไปในหลุมสิวโดยตรงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
✅ ข้อดี:
❌ ข้อเสีย:
รีวิวจากประสบการณ์:
TCA CROSS ได้ผลดีสำหรับหลุมสิวที่ลึกมาก แต่ต้องทำใจเรื่องรอยดำที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ ซึ่งจะค่อยๆ จางลงใน 1-2 เดือน
การฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid Filler) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นทันที
✅ ข้อดี:
❌ ข้อเสีย:
รีวิวจากประสบการณ์:
การฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่ต้องคอยเติมฟิลเลอร์เรื่อยๆ หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน
Subcision เป็นเทคนิคที่ใช้เข็มขนาดเล็กตัดพังผืดใต้หลุมสิว เพื่อให้คอลลาเจนใหม่เข้าไปเติมเต็ม ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น
✅ ข้อดี:
❌ ข้อเสีย:
รีวิวจากประสบการณ์:
การทำ Subcision ช่วยลดหลุมสิวได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์หรือเลเซอร์
วิธีรักษาหลุมสิว | เหมาะกับหลุมสิวประเภท | ระยะเวลาการเห็นผล | ราคาโดยประมาณ |
---|---|---|---|
สกินแคร์กระตุ้นคอลลาเจน | Rolling Scar (ตื้น) | 3-6 เดือนขึ้นไป | 500-3,000 บาท/เดือน |
เลเซอร์ | ทุกประเภท | 3-6 เดือน | 5,000-20,000 บาท/ครั้ง |
TCA CROSS | Ice Pick, Boxcar | 2-4 เดือน | 2,000-5,000 บาท/ครั้ง |
ฟิลเลอร์ | Rolling, Boxcar | ทันที (6-12 เดือน) | 10,000-20,000 บาท/ครั้ง |
Subcision | Rolling Scar | 1-3 เดือน | 5,000-15,000 บาท/ครั้ง |
การรักษาหลุมสิวไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน คุณต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวและงบประมาณของคุณ หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว เลเซอร์หรือ Subcision อาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าไม่รีบ สกินแคร์และ TCA CROSS ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า
หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูหลุมสิว Infresh Acne Scar Serum เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีส่วนผสมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ