"รอยสิว หลุมสิว ไม่ต้องทน! ค้นพบตัวช่วยเพื่อผิวเรียบเนียนที่แท้จริง"

หมดปัญหาหลุมสิว! ทางออกเพื่อผิวเรียบเนียน พร้อมให้คุณมั่นใจอีกครั้ง

หลุมสิวเก่า ผิวไม่เรียบ? ฟื้นฟูได้! แค่เลือกวิธีที่ใช่ให้ผิวคุณ

แชร์ประสบการณ์จริง: รีวิวการรักษาหลุมสิวแต่ละวิธี

มี.ค. 13, 202534 นาทีในการอ่าน

หลุมสิวรักษายังไงให้ได้ผล? บทความนี้รีวิววิธีรักษาหลุมสิวแต่ละประเภท เช่น เลเซอร์, TCA CROSS, Subcision, ฟิลเลอร์ และสกินแคร์ พร้อมข้อดี-ข้อเสีย เพื่อช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับผิวของคุณที่สุด!

แชร์ประสบการณ์จริง: รีวิวการรักษาหลุมสิวแต่ละวิธี

(เคล็ดลับเลือกวิธีที่เหมาะสมสำหรับคุณ)

หลุมสิว เป็นปัญหาผิวหน้าที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะผู้ที่เคยเป็นสิวอักเสบรุนแรง ซึ่งหลุมสิวเกิดจากคอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลาย ทำให้เกิดรอยบุ๋มลงไป ผิวดูไม่เรียบเนียน แม้สิวหายไปแล้วก็ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ การรักษาหลุมสิวจึงต้องใช้เวลาพอสมควร และต้องเลือกวิธีให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีรักษาหลุมสิวแต่ละประเภท พร้อมรีวิวข้อดี-ข้อเสียของแต่ละวิธีจากประสบการณ์จริง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแนวทางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด


1. การใช้สกินแคร์กระตุ้นคอลลาเจน

การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น เรตินอล (Retinol), วิตามินซี (Vitamin C), กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid), เปปไทด์ (Peptide) สามารถช่วยฟื้นฟูผิวและทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะกับหลุมสิวตื้น (Rolling Scar)

ข้อดี:

  • ปลอดภัย ใช้ได้ในระยะยาว
  • ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นโดยไม่ต้องเจ็บตัว
  • ราคาไม่แพงเท่ากับการทำเลเซอร์หรือหัตถการ

ข้อเสีย:

  • ต้องใช้เวลานาน กว่าจะเห็นผลต้องใช้ต่อเนื่องหลายเดือน
  • เหมาะกับหลุมสิวตื้นมากกว่าหลุมสิวลึก

รีวิวจากประสบการณ์:
สำหรับคนที่มีหลุมสิวไม่ลึกมาก การใช้สกินแคร์ที่เน้นกระตุ้นคอลลาเจนอาจช่วยให้ผิวดูดีขึ้นได้ในระยะยาว แต่ต้องมีความสม่ำเสมอ และอย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็ว


2. การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว

เลเซอร์ (Laser Resurfacing) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะเลเซอร์ประเภท Fractional CO2, Erbium YAG, Pico Laser ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผลัดเซลล์ผิว

ข้อดี:

  • เห็นผลชัดเจน หลุมสิวดูตื้นขึ้นใน 3-6 เดือน
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น รอยแดงรอยดำจากสิวจางลง

ข้อเสีย:

  • ต้องทำหลายครั้ง กว่าจะเห็นผลชัดเจน
  • อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวแห้ง ลอก หรือเป็นรอยดำ
  • ราคาค่อนข้างสูง เฉลี่ยครั้งละ 5,000 - 20,000 บาท

รีวิวจากประสบการณ์:
การทำ Fractional CO2 Laser ช่วยลดหลุมสิวได้จริง แต่ต้องเตรียมใจเรื่องการพักฟื้น ผิวจะแดงและลอกอยู่ประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นผิวจะดูเนียนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน


3. การทำ TCA CROSS (Trichloroacetic Acid CROSS)

TCA CROSS คือการใช้ กรด TCA ความเข้มข้นสูง 50-100% แต้มลงไปในหลุมสิวโดยตรงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

ข้อดี:

  • เหมาะกับหลุมสิวแบบ Ice Pick Scar และ Boxcar Scar
  • ใช้เวลาไม่นานต่อครั้ง (10-15 นาที)
  • ราคาถูกกว่าการทำเลเซอร์

ข้อเสีย:

  • อาจเกิดรอยดำหลังทำ ต้องใช้ครีมกันแดดอย่างเคร่งครัด
  • ต้องทำซ้ำหลายครั้ง กว่าจะเห็นผลชัดเจน

รีวิวจากประสบการณ์:
TCA CROSS ได้ผลดีสำหรับหลุมสิวที่ลึกมาก แต่ต้องทำใจเรื่องรอยดำที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ ซึ่งจะค่อยๆ จางลงใน 1-2 เดือน


4. การฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มหลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid Filler) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นทันที

ข้อดี:

  • เห็นผลทันทีหลังฉีด
  • ไม่ต้องพักฟื้น ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

ข้อเสีย:

  • เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว ฟิลเลอร์จะสลายไปใน 6-12 เดือน
  • ราคาค่อนข้างสูง

รีวิวจากประสบการณ์:
การฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่ต้องคอยเติมฟิลเลอร์เรื่อยๆ หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน


5. การทำ Subcision (ตัดพังผืดใต้ผิว)

Subcision เป็นเทคนิคที่ใช้เข็มขนาดเล็กตัดพังผืดใต้หลุมสิว เพื่อให้คอลลาเจนใหม่เข้าไปเติมเต็ม ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น

ข้อดี:

  • เหมาะกับหลุมสิวแบบ Rolling Scar
  • ให้ผลถาวร ไม่ต้องทำซ้ำบ่อยๆ

ข้อเสีย:

  • อาจมีรอยช้ำหลังทำ ต้องใช้เวลาฟื้นตัว 3-7 วัน
  • ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

รีวิวจากประสบการณ์:
การทำ Subcision ช่วยลดหลุมสิวได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์หรือเลเซอร์


สรุป: วิธีไหนดีที่สุดสำหรับคุณ?

วิธีรักษาหลุมสิวเหมาะกับหลุมสิวประเภทระยะเวลาการเห็นผลราคาโดยประมาณ
สกินแคร์กระตุ้นคอลลาเจนRolling Scar (ตื้น)3-6 เดือนขึ้นไป500-3,000 บาท/เดือน
เลเซอร์ทุกประเภท3-6 เดือน5,000-20,000 บาท/ครั้ง
TCA CROSSIce Pick, Boxcar2-4 เดือน2,000-5,000 บาท/ครั้ง
ฟิลเลอร์Rolling, Boxcarทันที (6-12 เดือน)10,000-20,000 บาท/ครั้ง
SubcisionRolling Scar1-3 เดือน5,000-15,000 บาท/ครั้ง

สรุปส่งท้าย

การรักษาหลุมสิวไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน คุณต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวและงบประมาณของคุณ หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว เลเซอร์หรือ Subcision อาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าไม่รีบ สกินแคร์และ TCA CROSS ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า

หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูหลุมสิว Infresh Acne Scar Serum เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีส่วนผสมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ

รูปภาพจดหมายข่าว
ไอคอนหลัก
จดหมายข่าว

สมัครรับข่าวสารและโปรโมชันสุดพิเศษจาก Infresh

เมื่อกดปุ่มสมัคร แสดงว่าคุณยอมรับเงื่อนไขและข้อกำหนดของเรา

Your experience on this site will be improved by allowing cookies Cookie Policy