ไม่มีสินค้าในตะกร้า
"รอยสิว หลุมสิว ไม่ต้องทน! ค้นพบตัวช่วยเพื่อผิวเรียบเนียนที่แท้จริง"
หมดปัญหาหลุมสิว! ทางออกเพื่อผิวเรียบเนียน พร้อมให้คุณมั่นใจอีกครั้ง
หลุมสิวเก่า ผิวไม่เรียบ? ฟื้นฟูได้! แค่เลือกวิธีที่ใช่ให้ผิวคุณ
เจาะลึกลักษณะผิวของชาวจีนและชาวเอเชียว่า “ตกกระง่าย” จริงไหม พร้อมคำแนะนำการเลือกสกินแคร์ที่เหมาะสม ช่วยลดโอกาสเกิดกระและปกป้องผิวอย่างตรงจุด
ในวงการความงามและการดูแลผิวพรรณ มีคำพูดที่หลายคนคุ้นหูว่า “ผิวคนจีนตกกระง่าย” หรือ “ชาวเอเชียมักมีฝ้า กระ” จนกลายเป็นความเชื่อที่คนจำนวนมากนำไปอ้างอิงในการเลือกผลิตภัณฑ์โดยไม่รู้ที่มาอย่างแท้จริง บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกข้อเท็จจริงด้านผิวพรรณของชาวจีนและเอเชีย พร้อมทั้งแนวทางการดูแลผิวที่เหมาะสมในแบบที่เข้าใจโครงสร้างผิวของเราอย่างแท้จริง
ชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวจีน มักมีลักษณะผิวที่อยู่ในกลุ่ม ผิวเบอร์ 3-4 ตาม Fitzpatrick Scale ซึ่งเป็นสเกลแบ่งระดับผิวจากขาวไปคล้ำ พบว่าผิวคนจีนโดยทั่วไปมี:
สีผิวค่อนข้างขาวอมเหลือง
ความหนาของผิวชั้นหนังกำพร้าบางกว่าคนตะวันตก
จำนวนเม็ดสีเมลานินในผิวมากกว่าคนผิวขาวแต่ไม่เท่าคนผิวเข้ม
มีแนวโน้มเกิด “จุดสีผิวผิดปกติ” ได้ง่าย เช่น ฝ้า กระ รอยดำ
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า แม้คนจีนจะมีผิวที่ดูสว่าง แต่ก็มีระบบ “ผลิตเม็ดสี” ที่ทำงานไวเมื่อได้รับแสง UV หรือกระตุ้นด้วยฮอร์โมน ทำให้ผิวเกิด "Hyperpigmentation" ได้ง่ายกว่า
คำตอบคือ “จริงในระดับหนึ่ง” แต่ไม่ใช่เพราะผิวอ่อนแอหรือบางอย่างเดียว
สาเหตุที่ผิวแบบชาวจีนมีแนวโน้มเกิดกระ ได้แก่:
กรรมพันธุ์
คนในเชื้อสายเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจีน เกาหลี ญี่ปุ่น มักมีโครงสร้างเม็ดสีที่ตอบสนองต่อรังสี UV ได้ไว โดยเฉพาะ “กระแบบ Solar Lentigines” หรือกระแดด
แสงแดดสะสม
คนที่อาศัยในประเทศเขตร้อนแบบไทย เจอแดดแรงต่อเนื่องทุกวัน ผิวจึงถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งหากไม่มีการป้องกันที่ดี ก็เกิดเป็น “กระถาวร”
ฮอร์โมนและอายุ
ในวัย 30+ ฮอร์โมนเริ่มแปรปรวนโดยเฉพาะในผู้หญิง ส่งผลให้การสร้างเม็ดสีไม่สมดุล เกิดฝ้าและกระชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
การเลือกผลิตภัณฑ์ผิด
สกินแคร์บางตัวกระตุ้นผิวไวเกินไป เช่น AHA ความเข้มข้นสูง, การใช้ Whitening แบบรุนแรง หรือสารห้ามใช้ เช่น ไฮโดรควิโนน ทำให้ผิวบางและเกิดกระมากขึ้น
กระแดด (Solar Lentigines): มักปรากฏเป็นจุดน้ำตาลหรือเทาเล็กๆ บนโหนกแก้ม หน้าผาก
กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis): มักพบในวัย 40+ เป็นรอยนูนสีน้ำตาลที่มีผิวสัมผัสขรุขระ
กระธรรมดา (Freckles): มักพบตั้งแต่วัยเด็ก เป็นจุดเล็กๆ กระจายทั่วจมูกและโหนกแก้ม เข้มขึ้นเมื่อโดนแดด
✅ ใช้ครีมกันแดดทุกวัน (SPF 30-50 PA+++)
✅ เลือกกันแดดที่มี Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide เพื่อสะท้อน UV
✅ ใส่หมวกหรือกางร่มเมื่อออกกลางแจ้ง
✅ หลีกเลี่ยงการขัดผิวแรง ๆ ที่ทำให้ผิวบางลง
ใช้เวชสำอางกลุ่ม Brightening ที่ไม่รุนแรง เช่น:
Niacinamide: ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
Arbutin: ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ที่กระตุ้นการผลิตเม็ดสี
Tranexamic Acid: ลดการอักเสบที่กระตุ้นกระฝ้า
Vitamin C: ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความหมองคล้ำ
ผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA หรือ PHA อย่างอ่อนโยน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเสริมเกราะผิวให้แข็งแรง
Infresh Serum ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับผิวแบบเอเชียโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงชาวจีน ด้วยสารสกัดที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีโดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบน:
Niacinamide 5%: ลดรอยดำจากกระ พร้อมปรับผิวให้ดูสว่างใส
Tranexamic Acid: ตัวช่วยที่กำลังเป็นที่นิยมในการลดฝ้า กระ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
Centella Extract: ฟื้นฟูผิวที่ไวต่อแดดและระคายเคืองง่าย
Peptides: เสริมคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและทนต่อแสงมากขึ้น
เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากใช้สารที่อาจเสี่ยงต่อผิวในระยะยาว เช่น ไฮโดรควิโนน หรือกรดเข้มข้น
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ กัดผิวหรือไวต่อแสง โดยไม่มีการป้องกัน (เช่น AHA, BHA เข้มข้น)
อย่าขัดผิวบ่อยเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์
หลีกเลี่ยงการใช้ครีมไม่มี อย. หรือครีมหน้าใสที่ทำให้ผิวขาวเร็วผิดปกติ
ผิวชาวจีนหรือผิวแบบเอเชียมีแนวโน้ม “ตกกระง่าย” จริง เนื่องจากพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม แต่หากเข้าใจลักษณะผิวของตัวเอง เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และดูแลป้องกันอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถคงผิวกระจ่างใส และลดโอกาสเกิดกระใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Infresh Serum คือหนึ่งในตัวช่วยที่อ่อนโยนแต่ทรงพลัง ที่ออกแบบมาเพื่อ “ผิวแบบเอเชีย” โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าผิวได้รับการดูแลในแบบที่เข้าใจคุณจริงๆ